รู้ก่อนรวยก่อนเผยวิธี “ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง” ดูแลง่ายโตไว เก็บขายได้ราคาดี


หน่อไม้ฝรั่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Asparagus officinalis) เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรปและเอเชียตะวันตก ลักษณะเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 100-150 เซนติเมตร ใบเปลี่ยนรูปมาจากลำต้น รูปเข็ม กว้าง 1 มิลลิเมตร ยาว 6-32 มิลลิเมตร อยู่รวมเป็นกระจุก 4-15 ใบ ดอกรูประฆังสีขาว-เขียวถึงเหลือง มี 6 กลีบรวม ออกเป็นดอกเดี่ยวหรือกลุ่ม 2-3 ดอก ดอกเพศผู้และเพศเมียอาจพบได้ทั้งในต้นเดียวกันหรือคนละต้น ผลกลมแบบเบอร์รี เส้นผ่านศูนย์กลาง 6-10 มิลลิเมตร เมื่อสุกมีสีแดง มีพิษ

วันนี้แชร์สดจะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้เกียวกับวิธีการปลูกหน้อไม้ฝรั่งกัน บอกเลยว่าปลูกง่ายแถมยังโตไวอีกด้วย เพียงแค่ทำตามวิธีที่เรานำมาฝากในวันนี้ ส่วนจะมีวิธีการและขั้นตอนเป็นอย่างไรว่าแล้วไปชมกันเลยค่ะ

เมล็ดพันธุ์ที่ดีควรจะมีอัตราความงอกสูง (โดยดูจากฉลากที่ติดมากับกระป๋อง) มีความบริสุทธิ์ตรงตามพันธุ์ที่กำหนดไว้ จำหน่ายในปัจจุบันหนัก 1 ปอนด์ (453.6 กรัม) จะมีเมล็ด ประมาณ 13,000-23,000 เมล็ดแล้วแต่พันธุ์

ซึ่งสามารถเพาะเมล็ดแล้วให้ต้นกล้าสำหรับย้ายปลูกได้ 2-4 ไร่ โดยจะใช้พื้นที่เพาะกล้าประมาณ 500-600 ตารางเมตร

เมื่อได้เมล็ดแล้วนำมาหยอดลงในร่องที่เตรียมไว้ โดยหยอดห่างกันจุดละ 10-15 ซม. โรยทับด้วยฟูราดานบางๆ ในร่อง จากนั้นเขี่ยดินขอบร่องลงกลบในร่องบางๆ แล้วใช้ฟางคลุมทับบนแปลงหนาพอประมาณ

ละลายสารป้องกันเชื้อรา เช่น แคปแทนหรือแมน โคเช็บอัตรา 2 ช้อนแกงต่อน้ำ 10 ลิตร ใส่บัวรดน้ำราดให้ทั่วแปลง จากนั้นรดน้ำตามให้ชุ่ม

ช่วงแรก จะต้องรดน้ำให้บ่อยครั้งอย่าปล่อยทิ้งให้แปลงแห้ง หลังจากหยอดเมล็ดได้ประมาณ 10-15 วัน ต้นกล้าจะเริ่มงอก เปิดฟางออกบ้างให้เหลือฟางเพียงบางๆ เพื่อให้ต้นกล้างอกได้สะดวก หน่อไม้ฝรั่งต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอในการเจริญเติบโต

โดยปกติจะทำค้างเมื่อต้นหน่อไม้ฝรั่งมีอายุ 2 เดือนหลังจากย้ายกล้าปลูก ระยะห่างของไม้แต่ละจุดประมาณ 2 เมตร หรือแล้วแต่ความเหมาะสม

การให้ปุ๋ยในระยะแรกๆ จะให้ในรูปของปุ๋ยละลายน้ำโดยใช้ปุ๋ยสูตร 21-0-0 อัตรา 10 กรัม (3-4 ช้อนชา) ต่อน้ำ 20 ลิตร

ให้สลับกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในอัตราที่เท่ากัน ละลายปุ๋ยใส่บัวรดน้ำราดบนแปลงแล้วรดน้ำตามให้ชุ่มประมาณ 10-15 วันต่อครั้ง ให้ประมาณ 3-4 ครั้ง

จากนั้นเริ่มให้ปุ๋ยเม็ด สำหรับปุ๋ยเม็ดให้ใช้สูตร 15-15-15 อัตรา 15-20 กรัม (5-7 ช้อนชา) ต่อพื้นที่ปลูกประมาณ 1 ตารางเมตร

ใส่ปุ๋ยเม็ดเดือนละครั้ง ประมาณ 2-3 ครั้ง ใส่พร้อมกับปุ๋ ยหมักหรือปุ๋ยคอก 200-300 กรัม

การกำจัดวัชพืชการใช้มือถอนจะดีที่สุด แต่ถ้าเป็นรอบๆ บริเวณแปลงเพาะ กล้าหรือบริเวณทางเดินสามารถใช้ สารได้โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ

หากสำรวจแปลงแล้วพบว่าต้นกล้าที่แตกขึ้นมาใหม่มีขนาดเล็กและเป็นฝอย รากและเหง้าเล็กลง ทำให้ได้ต้นกล้าที่ไม่สมบูรณ์ จึงควรทำการพรวนดินกลบเหง้า (พูนโคนต้น) ต้นกล้าด้วย

ควรเก็บเกี่ยวหลังจากย้ายปลูกประมาณ 4-5 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นหน่อไม้ฝรั่งเป็นสำคัญ

เมื่อเริ่มเก็บเกี่ยวจะต้องเก็บเกี่ยวทุกวันในช่วงเช้าเวลา 06.00-09.00 น. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำหน่อขาวต้องเก็บในช่วงตอนเช้ามืดเวลา 06.00 น.

เพราะถ้าหน่อเจริญพ้นดินที่กลบไว้ จะทำให้ส่วนปลายของหน่อมีสีเขียวส่วนโคนมีสีขาว ไม่เป็นที่ต้องการของโรงงานผลิต หน่อไม้ฝรั่งกระป๋อง

แต่ปัจจุบันโรงงานบางแห่งยอมรับหน่อไม้ฝรั่งที่ส่วนปลายมีสีเขียวยาวไม่เกิน 2 นิ้ว ซึ่งเรียกว่าพวกกรีนทิป

โดยปกติหน่อไม้ฝรั่งจะมีระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวประมาณ 2.5-3 เดือน แต่อาจจะทำการพักต้นก่อนที่จะครบช่วงของการเก็บเกี่ยวก็ได้ หากพบว่าสภาพต้นหน่อไม้ฝรั่งเริ่มมีลักษณะไม่แข็งแรง

ช่วงของการพักต้นนี้ ควรทำการตัดแต่งลำต้นแม่เดิมทิ้ง ปล่อยให้หน่อใหม่เจริญขึ้นมาแทนที่

ในขณะเดียวกันก็ควรที่จะทำการพรวนดินใส่ปุ๋ยหมักและ ปุ๋ยคอก พร้อมทั้งให้น้ำและกำจัดศัตรูพืชให้สม่ำเสมอ

เมื่อหน่อที่แตกขึ้นมาใหม่มีความสมบูรณ์และพร้อมที่จะให้หน่อชุดใหม่ได้ ควรตัดแต่งให้เหลือต้นแม่เหนือดินที่สมบูรณ์ประมาณ 4-6 ต้นต่อกอ แล้วจึงทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตต่อไป

มาตรฐานคุณภาพหน่อไม้ฝรั่ง

หน่อไม้ฝรั่งคุณภาพ แบ่งออกเป็น 3 ขนาด ด้วยกันคือ

1. เกรดเอ คือหน่อไม้ฝรั่งที่มีความย า วหน่อ 25 ซม.มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนหน่อมากกว่า 1.0 ซม.

2. เกรดบี คือหน่อไม้ฝรั่งที่มีความย า วหน่อ 25 ซม.มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนหน่อตั้งแต่ 0.8-1.0 ซม.

3. เกรดซี คือหน่อไม้ฝรั่งที่มีความย า วหน่อ 25 ซม.มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนหน่อน้อยกว่า 0.8 ซม.

ขอขอบคุณที่มาจาก : baanjomyut.com