แชร์วิธี “เลี้ยงแมงดานา” เลี้ยงง่ายโตไวเก็บขายสร้างอาชีพ ทำเงินตลอดปี


แมลงดา, แมลงดานา หรือที่นิยมเรียกว่า แมงดานา จัดเป็นแมลงจำพวกมวนน้ำชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lethocerus indicus จัดอยู่ในวงศ์ Belostomatidae พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปในภูมิประเทศลักษณะเป็นท้องทุ่งหรือท้องนาในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ รวมถึงเอเชียตะวันออก เช่น ตอนใต้ของจีน, เกาหลี, หมู่เกาะริวกิว และนิวแคลิโดเนีย

แมงดานามีเอกลักษณ์เฉพาะเรื่องกลิ่น และรสชาติ ส่วนใหญ่นิยมนำมาทำน้ำพริก และด้วยความอร่อย จึงทำให้แมงดาซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก นั้นเป็นต้องการของตลาด ส่งผลให้แมงดามีคาราที่สูงมาก วันนี้เองทางเราเลยขอนำเทคนิคการเลี้ยงแมงดามาฝาก หวังว่าจะเป็นแนวทางสร้างอาชีพให้เพื่อนๆ ว่าแล้วไปชมกันเลยค่ะ

ทำไมต้องเป็นแมงดานา ? 

สิ่งแรก ๆ ที่ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ ก็คือ ทำไมต้องเป็นแมงดานา มีอีกตั้งเยอะ ๆ ตั้งแยะ ที่ให้ทำ ทั้งจิ้งหรีด เห็ด ดักแด้ พอค้นหาข้อมูลดูสักหน่อยก็ต้องบอกว่า แมงดานานี่ราคาไม่ใช่เล่น ๆ นะครับ ขายกันเป็นตัวไม่ต้องชั่งกิโล ราคาก็อยู่ราว ๆ 7-12 บาท โดยตัวผู้ที่มีกลิ่นหอม (บางคนบอกว่าฉุน) ราคา 10-12 บาท ส่วนตัวเมีย อยู่ที่ 7-10 บาท ระยะเวลาจากแรกเกิดจนถึงส่งขายใช้เวลา 30-45 วัน นั่นหมายความว่า ต้องเลี้ยง 2,500 ตัว เพื่อให้มีรายได้เดือนละ 30,000 บาท อืม…น่าคิด ๆ

แมงดานาโตในที่แบบไหน ?

การเตรียมบ่อสำหรับเลี้ยงแมงดานา ขนาดบ่อสำหรับเลี้ยงแมงดานา มีความลึก 1 เมตร ขอบบ่อสำหรับให้แมงดานาขึ้นมาพักจากน้ำ กว้างจากบ่อเลี้ย 1 เมตร ก้นบ่อและปากบ่อควรทำมุม 45 องศาหรือมากกว่าเพื่อให้แมงดานาปีนขึ้นจากน้ำได้ง่าย ขนาดของบ่อควรเป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้า ความยาวเป็นสองเท่าของความกว้าง(อย่างน้อย 2 เมตร) ปริมาณน้ำในบ่อ ควรลึก 35-80 เซ็นติเมตร ปรับสภาพบ่อให้เหมือนธรรมชาติมีต้นไม้บ้าง และมีการเตรียมที่วางไข่ให้แมงดานาด้วย

ปีนหนีไป และป้องกันพวกนก ไก่ เป็น ฯลฯเข้าไปทำความเสียหายให้กับธุรกิจของเราด้วย มุงหลังคาให้สามารถกันแดด กันฝนได้ ไม่ควรใช้สักกะสีมุงหลังคา เพราะจะทำให้อากาศร้อนเกินไป ควรใช้ หญ้า หรือ กระเบื้องจะดีกว่าครับ

แมงดานากินอะไร ?

อาหารของแมงดานา เป็นสิ่งที่หาได้ตามธรรมชาติ(หรือตลาดก็มีขาย) ได้แก่ ลูกปลาตัวเล็ก ๆ ลูกอ๊อด กุ้ง (ห้ามใช้ลูกคางคกเพราะมีพิษ )

ต้องเลี้ยงเท่าไหรถึงจะพอทำรายได้ ?

ในระยะแรก ๆ ให้ทดลองเลี้ยงดูก่อน ให้ทดลองที่ 10-20 คู่(ตัวผู้กับตัวเมีย ซึ่งบางครั้ง สามารถใช้ ตัวผู้หนึ่งตัว ต่อตัวเมีย 5 ตัวก็ได้ แบบนี้ค่อยสมกับเป็นแมงดาหน่อยเนอะ) ซึ่งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แต่ละรุ่นสามารถวางไข่ได้ 2-3 ครับในระยะห่างกัน 1 เดือน ซึ่งพอครบ 3 ครั้งก็สามารถจับขาย และเลือกลูก ๆ ที่โตมาทำเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์รุ่นต่อไปแทน

การวางไข่แต่ละครั้งของแม่แมงดานาจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 ฟอง ซึ่งการเลี้ยงแม่พันธุ์ 20 ตัวก็สามารถให้ลูกแมงดาได้ 2,000-4,000 ตัวต่อการเลี้ยงหนึ่งครั้งเลยทีเดียว

ดูแล้วไม่ยาก และไม่นานเกินไปแล้วใช่ไหมละครับกับผลตอบแทนระดับ 30,000 ต่อเดือน

 

ต้องดูแลอย่างไรบ้าง ?

การดูแลแมงดานา ไม่ได้ยากเย็นเลยนะครับเพราะว่าแมงดานาเป็นสัตว์ที่อาศัยตามธรรมชาติของบ้านเราอยู่แล้ว จึงไม่ต้องห่วงเรื่องอุณหภูมิน้ำ ภูมิอากาศ แต่ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็คือ

1. การถูกรบกวนจาก คน สัตว์เลี้ยง และแสงไฟ เพราะสิ่งเหล่านี้จะรบกวนการเจริญเติบโต และการพักผ่อนของแมงดานาได้

2. ความสะอาดของน้ำ ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำทุก ๆ 7 วัน หรือหากเริ่มมีกลิ่นเหม็น เก็บเศษอาหารที่ที่ลูกแมงดากินไม่หมด

3. เห็บหรือไร จะมากัดแมงดาหากว่าน้ำสกปรก แมงดานามีศัตรูตามธรรมชาติไหม ? แน่นอนครับว่า สัตว์ทุกชนิดย่อมมี ศัตรูตามธรรมชาติ และแมงดานาก็ไม่เว้น ยกตัวอย่างเช่น

3.1 ดมจะคอยกัดแมงดานาจนตาย และคอยกัดกินไข่แมงดา หากว่าสามารถเข้าถึงได้

3.2 แมงดานาเป็นศัตรูกันเองด้วย หากว่ามีอาหารไม่เพียงพอ ก็ทำให้ตัวอ่อนกินกันเองได้

3.3 เห็บจะกัดตามตัวของแมงดานาขนาดใหญ่ ซึ่งมันจะดูดกินเลือดของแมงดานาจนตายได้ ตัวเห็นจะมีลักษณะเหมือนไข่เล็ก ๆ สีน้ำตาลเกาะตามท้องของแมงดา การแก้ไขให้เปลี่ยน้ำให้บ่อยขึ้น ลดจำนวนแมงดาต่อบ่อให้น้อยลง

3.4 ตัวทาก ลักษณะคล้ายปลิง ทำให้แมงดาโตได้ไม่เต็มที่

การจับแมงดานา

1. ใช้มือจับ

2. ใช้สวิงจับหรือช้อนตามไม้น้ำ

3. ใช้แสงไฟล่อ ติดตั้งหลอดแบล็กไลต์บนเสาไม้ไผ่สูง ๆ ใช้ตาข่ายขึง กั้นให้สูงแมงดาจะมาเล่นไฟ

4. ปัจจุบันมีเครื่องมือจับแมงดานาแบบพื้นบ้านซึ่งเป็นผลงานการคิดค้นของจ่าสาย ศรีสมุทร สภอ.นาแก จังหวัดนครพนม โดยการใช้สังกะสีแผ่นเรียบมาตัดต่อบัดกรีให้เรียบร้อยเป็นกรวยปากกว้าง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เมตร ความสูงของกรวย 1 เมตร และด้านล่างทำเป็นท่อกลวงขนาดกระป๋องนม ยาวประมาณ 30 ซม.

การติดตั้งเครื่องมือให้เลือกสถานที่ใกล้แหล่งน้ำ โดยตั้งเสาสูงประมาณ 6 เมตรติดหลอดแบล็กไลต์ไว้ล่อแมงดา ด้านล่างติดตั้งกรวยสังกะสีหงายปากกรวยขึ้น มีไฟนีออนสีฟ้าล่อไว้อีกดวงหนึ่งที่ปากกรวยนั้น ส่วนด้านล่างสุดใช้ถุงปุ๋ยที่ไม่ขาดทะลุสวมเข้าที่ท่อกลวงด้านล่างผูกติดให้แน่น ซึ่งแสงจากหลอดแบล็กไลต์จะล่อแมงดาให้มาที่นี่ ส่วนแสงสีฟ้าจากหลอดนีออนเมื่อสะท้อนจากปากกรวยสังกะสีจะดูคล้าย ๆ กับแหล่งน้ำขนาดเล็ก ดึงดูดใจให้แมงดาบินลงกรวยในที่สุด ซึ่งการจับด้วยวิธีนี้สะดวก เพราะเราไม่ต้องนั่งเฝ้า รอไว้ดูตอนเช้าเลยทีเดียว

การนำแมงดามาปรุงอาหาร

1. ไข่แมงดานา นำมาย่างไฟหรือกินสด ๆ

2. ตัวเต็มวัย ตัวเมียชุบแป้งทอด ทำแกงคั่วแมงดานา ตัวผู้มีกลิ่นหอมทำให้เพิ่มรสชาติอาหาร นำมาทำน้ำพริกแมงดา แจ่วแมงดานา น้ำพริกปลาร้า น้ำปลาแมงดา หรือดองแช่น้ำปลาไว้ขายราคาแพง (ตุลาคม-มีนาคม)

ขอบคุณที่มา :  taibann