เปิดชีวิต “ครูสลา คุณวุฒิ” เคยขๅยเพลงไม่ผ่าน 11 ปี แต่พอดังแล้ว ก็ยังใช้ชีวิตติดดิน


จงอย่ามองคนประสบความสำเร็จด้วยสายตาที่อิจฉา เพราะกว่าจะถึงวันนี้ที่คว้าชัย ก็เคยล้มจนแทบท้ออย่าง ครูสลา คุณวุฒิ ครูเพลงชื่อดัง ยังบอกในรายการ ต้มยำอมรินทร์ เคยท้อขๅยเพลงไม่ผ่าน นานถึง 11 ปี จนอยากหยุดแต่งเพลง แต่กว่าจะเป็นครูเพลงในทุกวันนี้ได้ ครูสลา ได้เปิดใจว่า เคยท้อจนอยากหยุดแต่งเพลงแล้วเพราะแต่งยังไงก็ไม่ผ่าน นานถึง 11 ปี

ครูสลา : 11 ปี เราส่งทุกเดือน ๆ ไม่ผ่าน เกือบจะเลิกล่ะ จนปี 2536 แล้วตอนนั้นแม่ไม่สบายเราก็เลยคิดว่าจะแต่งเพลงเพื่อเอามารักษาแม่ พาแม่มาโรงพยาบาล ตอนนั้นก็ยังเป็นครูครับ เส้นทางครูก็ไปเรื่อย ๆ ครับ เป็นครูน้อยแล้วเราก็ไปสอบเพื่อเป็นครูใหญ่ จนที่สุดแต่งมา 8 เพลง แล้วแม่ก็จากไป

จนหลายเดือนต่อมา คุณเปิ้ล เรดิโอ โทรติดต่อกลับมาว่า อยากได้เพลงให้ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ซึ้งแล้วคำสัญญา แต่ก็ไม่ได้ดัง เป็นเพลงกลาง ๆ เอาไปใส่อัลบั้ม ครูเค้าก็ดูจะมีแววเลยมาขอไปอีก เราเลยแต่งเพลง จดหมายผิดซอง

เพลงนี้เป็นจุดเปลี่ยนของครูด้วย เสมือนแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในพื้นที่ของการเขียนเพลง ต่อมาก็ได้มาร่วมงานกับพี่เอ ไชยา เพลง กระทงหลงทาง และก็ ไมค์ ภิรมย์พร เพลง ยาใจคนยากจน

ในระหว่างทางมีเรื่องอะไรที่เปลี่ยนทำให้มาเป็นนักแต่งเพลงได้ยังไง ?

ครูสลา : จุดมุ่งหมายจริง ๆ คือ อยากเป็นครู เลยเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูอุบลฯ ทุกวันนี้ เป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลฯ พอจบก็ไปสอบบรรจุครู ไม่กล้าคิดเลยครับว่าจะเป็นครูทางด้านร้องเพลง เพราะว่าเรื่องการแต่งเพลงร้องเพลงเป็นเรื่องที่ใจเรารักเฉย ๆ แต่เป้าหมายเราคือ การที่เราได้เป็นครูมุ่งไปตรงนั้น ไปบรรจุเราก็สอนทุกวิชาครับเพราะเป็นโรงเรียนประถม เราต้องสอนทุกวิชา

ครูสลา : มีเรื่องบังเอิญตั้งแต่ตอนนักศึกษาแล้ว ก่อนจะเรียนจบมาบรรจุสอบเป็นครู ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนตั้งวงดนตรีเล็ก ๆ แต่งเพลงเอง แล้วก็ช่วงนั้นแต่งเองอยู่ 10 กว่าเพลง เพื่อนก็ยุมาให้นักร้องอัดแผ่นดีกว่า แล้วตอนนั้นก็มีคอนเสิร์ตใหญ่ทุ่งศรีเมือง อุบลฯ อาจารย์ชายเมืองสิงห์ อาจารย์รุ่งเพชร แหลมสิงห์

เพื่อนก็บอกว่า เอาไปให้นักร้องเลย เพื่อได้อัดเป็นแผ่น เราบุกเข้าไปยื่นกระดาษม้วน ๆ ให้ท่าน อาจารย์ท่านก็คุยด้วยเป็นอย่างดี ท่านจิตใจดีมาก ท่านก็บอกว่า ถ้าหนูแต่งก็ไปร้องปากเปล่ามา แล้วท่านก็ให้ที่อยู่เราไว้ เราก็คิดว่าคงไม่ผ่าน เลยไปสอบบรรจุครู

ครั้งแรกที่เราได้ฟังเพลงในวิทยุ รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?

ครูสลา : รู้สึกยิ่งใหญ่มากกว่าได้ค่าตอบแทนอีกครับ ดีใจมาก และที่สำคัญคนที่ไม่คิดเอาดีทางนี้มีผลกับเรามากจริง ๆ

ทราบมาว่าเป็นทางแยกของชีวิตเลยเมื่อเพลงดังติดต่อกัน ?

ครูสลา : เป็นทางแยกที่ยากมากในชีวิตเลยครับ เพราะตอนนั้นเราก็เป็นครูใหญ่อยู่ และทางบริษัทก็เรียกให้เราเข้ามาคุยหลังจากเพลงยาใจคนยากจนดัง ก็ได้รับ ศิริพร อำไพพงษ์ เข้ามาในสังกัด เราก็ได้รับทำอัลบั้มของศิริพร ทางบ.ก็ให้เราคุมอัดเสียงด้วย เราก็เริ่มลาโรงเรียนบ่อย เราก็จะยื่นใบลาหลายรอบ ทั้งเพื่อนครู ทั้งผู้ใหญ่ก็รั้งไว้

ขนาดนั้นวันที่เราอยู่กรุงเทพฯ เราคุมร้องปริญญาใจ แล้วที่โรงเรียนโทรมาบอกว่า มีคนไม่สบาย เราก็เลยไม่ต้องคิดอะไรมากล่ะ ถ้าอยู่ตรงไหนเป็นงานของบ้านของเมือง

เราต้องไม่เอาตัวเองไปเป็นอุปสรรค เราต้องหลีกทางให้คนที่เค้าพร้อมกว่าเรามาทำหน้าที่ของสังคม ก็ยื่นใบลาออกปี 2543 เลยมาทำหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มตัว และเพื่อไม่ให้บกพร่องอีกที่หนึ่งด้วย

และถึงแม้ทุกวันนี้ ครูสลา คุณวุฒิ จะเป็นครูเพลงชื่อดังแล้ว แต่ก็ยังคงเลือกที่จะใช้ชีวิตเรียบง่าย และติดดินเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เช่นเดียวกับรถคันโปรดของ ครูสลา คุณวุฒิ ก็ยังเลือกที่จะขับรถคันเดิม

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบบอย่างที่ดีให้กับคนที่มีฝัน และกำลังเดินตามฝันให้เป็นจริง ไม่ว่าจะเจอปัญหา และอุปสรรคมากมายขนาดไหน ก็จะต้องมีวันเป็นของเราเช่นเดียวกับ ครูสลา คุณวุฒิ

แหล่งที่มา : รายการ ต้มยำอมรินทร์ / siamrath

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

Leave a Reply

Your email address will not be published.