ปลาหมอเป็นปลาที่สามารถพบได้ในทุกแหล่งน้ำ กระจายอยู่ทั่วไปในทวีปเอเชีย สำหรับในประเทศไทยพบทุกภาค และเป็นปลาที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยใช้เป็นอาหารมาช้านาน และมีความเชื่อว่าหากปล่อยปลาหมอจะทำให้ไม่เป็นโรคหรือหายจะโรคได้ ด้วยชื่อที่มีความหมายถึงหมอหรือแพทย์ผู้รักษาโรค และนิยมเลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจในปัจจุบัน อีกทั้งในปลาที่มีสีกลายไปจากสีปกติ เช่น สีทองยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามที่มีราคาขายแพงอีกด้วย
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาอาชีพเสริมสร้างรายได้ ไปเรียนรู้วิธีการเลี้ยงปลาหมอ จากผู้มีประสบการณ์ โดยคุณธนวัฒน์ ทำเฟือง จากหนุ่มโรงงานผันตัวมาเลี้ยงปลารับเงินเดือนละ 3 หมื่นบาท ส่วนวิธีการเลี้ยงเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
ปัจจุบันการเลี้ยงปลาหมอค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมากในเชิงการค้า ซึ่ง คุณธนวัฒน์ ทำเฟือง เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาหมอ อ.เมือง จ.สุโขทัย ที่แบ่งเวลาว่างจากการทำงานโรงงานมาทำ
ซึ่งคุณธนวัฒน์ ได้เผยเทคนิคการเลี้ยงในบ่อดินดังนี้ ช่วงแรกที่ทำบ่อ ให้เอาปูนขาวมาโรยทั่วบ่อดินและปากบ่อ ทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน รอปรับสภาพน้ำอีก 7 วัน
หลังจากนั้นเอาลูกปลาเล็กๆ ขนาด 2-3 ซม. ลงบ่อประมาณ 8 พันตัว ให้อาหาร 2 ครั้งต่อวัน คือเช้าเย็น
หลังจากลูกปลาหมออายุ 20 วัน ก็เปลี่ยนอาหาร เป็นสูตร ปลาเบอร์ 1 ที่มีโปรตีนสูงประมาณ 32%
พออายุครบ 3 เดือนก็เปลี่ยนเป็นสูตรอาหาร เบอร์ 2 และให้กินแบบนี้เช้าเย็น จนกว่าจะขนาดตัวพอเหมาะกับการจับขึ้นไปขาย
สิ่งที่ต้องระวัง
– งู
– นกกระยาง
– กบ
ขนาดปลาหมอที่นำไปจำหน่ายได้ ไซส์ใหญ่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 3 ตัว ต่อ 1 กก. กิโลกรัมละ 105 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจ คุณธนวัฒน์บอกว่า
“ถ้าคนที่ไม่เคยลองเลี้ยงปลาเลย จะเอากำไรให้ได้มากๆ เหมือนคนที่เขาเคยเลี้ยงที่ประสบผลสำเร็จมาก่อน มันก็เป็นไปไม่ได้สิ่งที่ต้องดูให้เป็นเลยคือ
หนึ่งต้องศึกษาเรื่องลูกปลา ต้องรู้ว่าดีหรือไม่ดี เพราะอาจจะโดนหลอกเอาสายพันธุ์ ที่ไม่ดีมาขายให้ก็ได้ เกิดซื้อมาเลี้ยงดูอย่างดี แต่สายพันธุ์ ไม่ดีปลามันก็ไม่โต
สองเรื่องของอาหาร ที่ให้ปลากินถ้าไม่ดีไม่มีคุณภาพ เลี้ยงเท่าไหร่ปลามันก็ไม่โต ซึ่งถ้ามองกันแล้ว 2 อย่างนี้ถือว่าสำคัญ ถ้าปลาดีอาหารดี รับรองว่าการเลี้ยงประสบผลสำเร็จแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นๆ อุปสรรคที่เจอจะช่วยสอนเราให้มีประสบการณ์เอง”
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณธนวัตน์ คำเฟือง ที่หมายเลขโทรศัพท์ (087) 202-6519
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : sharesod.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : technologychaoban