วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวชีวิตของ ลุงแสน หรือ นายแสน คงสมบูรณ์ วัย 66 ปี ชาว อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี บั้นปลายชีวิตกับอาชีพเร่ขๅยมะนาว อยู่ย่านสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ โดยใช้รถเข็นเด็กเก่า ๆ เป็นชั้นจัดวางมะนาว ที่มัดใส่ถุงเสร็จสรรพพร้อมหยิบให้ลูกค้า ในแบบราคาถุงละ 40 บาท และ 20 บาท
ขณะที่ลุงเเสนกำลังเขมักเขม่นพิถีพิถันเลือกมะนาว จัดเตรียมใส่ถุง ทีมข่าวจึงเอ่ยถามว่า ลุง ๆ ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว? ลุงเเสนกล่าวตอบทันที อายุเท่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลย พ.ศ. 2497 เหมือนกัน พร้อมยื่นบัตรประชาชนให้ดูว่าเป็น พ.ศ. 2497 แต่บัตรไม่มีข้อมูล วันเกิด เดือนเกิดแจ้งเพียง พ.ศ. เท่านั้u
ลุงแสน เล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนตอนลุงเกิด เขาไม่ได้แจ้งวันเกิดแจ้งแต่ พ.ศ. “ เคยไปทำเรื่อง เงิน 5,000 บาท ที่รัฐบาลเขาแจก ลุงก็ไม่ได้เงินกับเขานะ เจ้าหน้าที่บอกว่า #ไม่มีรายละเอียด
“ส่วนอาชีพขๅยมะนาว ลุงแสนเล่าว่า ขๅยตั้งแต่อยู่บ้านเกิดที่จังหวัดสระบุรี แต่เมื่อปี พ.ศ. 2554 น้ำท่วมพร้อม มีเหตุต้องแยกทางกับภรรยา จึงมุ่งหน้าเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เช่าห้องพักอาศัยอยู่แถว ศาลเจ้าพ่อเสือเสาชิงช้ากับหลานอีกหนึ่งคน
ตื่นเช้ามาไปรับซื้อมะนาวที่ปากคลองตลาด ราคากระสอบละ 700 บาท หิ้วขึ้นรถเมล์พร้อมกับรถเข็นเด็กราคา 100 บาท ซื้อจากร้านขๅยของเก่าเพื่อเอามาวางมะนาวขๅย เดินทางแบบนี้ทุกวันไม่เคยหยุด เคยเดินจากสนามหลวงมาแถวซอยอารีย์ ก็เดินมาแล้ว ลุงแสนกล่าว
เมื่อถามว่ามะนาวที่นำมาขๅยหากขๅยหมดได้ กำไรเท่าไหร่ ลุงแสน กล่าวว่า ก็ได้ประมาณ 500-400 บาท หากมะนาวราคาขึ้นเราก็ปรับตามราคา สมัยก่อน มะนาวลูกละ 30-40 สตางค์เท่านั้u แต่เดี๋ยวนี้ตกลูกละ 2 บาท
บางวันก็มีคนมาเหมาซื้อไปหมด เพราะเขาสงสาร ส่วนวันไหนที่ขๅยไม่หมด ไม่ได้เงินก็มี หรือ สองวันขๅยได้แค่ 200 บาทก็มี เช่น ในช่วงโควิด -19 ขๅยไม่ได้เลย
ลุงแสน กล่าวทิ้งท้ายว่า เราอายุเยอะมากแล้วหากเลิกทำอยู่ห้องคงจะเหงา ออกมาค้าขๅยยังได้เจอผู้คนพูดคุยบ้างจึงไม่เหงาอยากจะขๅยมะนาวไปจนกว่าจะไม่มีแรงทำ เพราะเหมือนเราขๅยมาตั้งแต่เด็ก
แหล่งที่มา: Mthai
เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม
