ลุงชราดีใจ ขๅยที่นาได้ ตัดสินใจเเบ่งเงินให้หนุ่มข้างบ้าน แต่ลูก ๆ กลับหาว่าเขาเอาเงินคนเเก่


เปิดเรื่องราวที่เป็นข้อคิดดี ๆ สำหรับการใช้ชีวิตของเราได้ โดยเรื่องราวดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องราวของ ชายคนหนึ่ง เค้าได้เล่าว่าเค้าย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านหนึ่งได้หลายปี ข้างบ้านรั้วติดกันมีลุงคนหนึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย ตั้งแต่เขา ยังไม่ย้ายเข้ามา ลูก ๆ ทั้ง 3 คน ต่างก็แต่งงาน มีครอบครัว ไปอยู่ที่จังหวัดอื่น ๆ กันหมด

เขาได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดีอบอุ่น น่ารัก แกมีโรคประจำตัวตามประสาคนแก่ปกติ ด้วยความที่อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วยก็ลำบากหน่อย เพราะลูกหลานไม่ค่อยมาเยี่ยม เขาก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุระต่าง ๆ

บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเขาไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะท่านเ สี ย ไปนานหลายปีแล้ว ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่น ๆ มีลูก ๆ มาเยี่ยม

คุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพัง เขาก็ซื้อของขวัญไปไหว้แกแทนลูกหลานทุกปี ลุงก็ดีใจ ให้ศีลให้พร กันยกใหญ่แล้วก็บ่น รำพึง รำพัน ถึงลูก ๆ น้ำตาไหล นั่งมองแต่ประตูหน้าบ้านรอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูก ๆ กลับมาเยี่ยมบ้าง

หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอ เขาก็ได้แค่ปลอบว่าลูก ๆ เขาคงติดธุระ วันไหนเขาว่างก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อยเป็นพิเศษ เขาไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ เขาเห็นคุณลุงรอเอามะม่วงให้ลูก ๆ

จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน เพราะลูก ๆ ก็ไม่เคยกลับมาหลายปีแล้ว มีที่แปลงหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขๅย ให้เขาช่วยดำเนินการให้หน่อย เขาก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ 5 เดือนเศษ ๆ หลังจากประกาศขๅย ในที่สุดก็มีผู้สนใจและก็ขๅยได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท

เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือ คิดถึงลูก ๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขๅยที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่าจะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่า ๆ กัน วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเขาแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไปโอนเงินให้ลูก เขาก็พาไป คุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท

เมื่อกลับมา จอดรถส่งลุงหน้าบ้าน ก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาทยื่นส่งให้ บอกว่า เอานี่ ลุงให้ เขารีบปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง

“พ่อหนุ่มไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์เสียเวลาเป็นธุระจัดการเรื่องราวให้สารพัด รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริง ๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ” เขาก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึก ๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ แต่ลุงไม่รับคืนและยืนยันว่าตั้งใจจะให้เขาจริง ๆ

อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็กและคนกลางมาเยี่ยมและทวงถามเขาถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า เขาไปหลอกเอาเงินคนแก่ เขารีบเข้าไปในบ้านหยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง

ลุงปฏิเสธและพยายามอธิบายให้ลูก ๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เขาจึงวางเงินไว้ แล้วเดินออกมา ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว

คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูก ๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้ ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือนมาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท เขาบอกว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น

3 วันผ่านไปลุงมาที่บ้านของเขา พร้อมกับลูกชายคนโต “เมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯ ไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนาหลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก พี่ต้องขอโทษแทนน้อง ๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริง ๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง

ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหม เดี๋ยวกลับไปพี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้ ” โดยลูกชายคนโตกล่าว“ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร” เขาปฏิเสธไป วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ

“ลูกชายคนโตบอกว่า วางแผนไว้แล้วอีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน” เขาสังเกตเห็นแววตาอันสดใส ของคุณลุง บ่งบอกถึงความปิติยินดีอย่างที่สุด ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปีแล้ว ที่ลุงนับวันรอว่าจะมีลูก ๆ และสุดท้าย “ลุงก็รอไม่ไหวอีกต่อไป”

ในห้องไอซียู เขากับลูกชายคนโตของลุงนั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้ ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต คุณลุงขยับนิ้วมือ เขากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง ดวงตาค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ คุณลุงจากไป ด้วยอาการสงบ

หลังงานของลุงเสร็จสิ้น ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเขาที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้ บอกว่า “พ่อฝากไว้ให้ พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนจากไป ว่าต้องให้เขารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะไปแบบตาไม่หลับ” เขาแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง จ่าหน้าว่า คืนเงินเดือนที่ 1-2-3 ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10 ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ

อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด เขาสังเกตเห็นปฏิทินที่คุณลุงใช้ขีดเพื่อนับวันรอลูก ๆ ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน เขาไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด นึกถึงภาพคนแก่ ที่หยิบดินสอขีดตัวเลขบนปฏิทิน ด้วยอาการมือสั่นเทา

ลูก ๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่า ๆ ไร้ค่าใบนี้ มันซ่อนความห่วงหาอาลัยซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ของคนแก่คนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดียวเพียงลำพังมานานกว่า 10 ปี เขาตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก ตลอดไป

แหล่งที่มา: ปริญญาชีวิต

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

Leave a Reply

Your email address will not be published.