ตะไคร้ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cymbopogon citratus); ชื่อท้องถิ่น: จะไคร (ภาคเหนือ), หัวซิงไค (ภาคอีสาน), ไคร (ภาคใต้), คาหอม (แม่ฮ่องสอน), เชิดเกรย, เหลอะเกรย (เขมร-สุรินทร์), ห่อวอตะโป่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ) เป็นพืชล้มลุก ในวงศ์หญ้า (Poaceae) ความสูงประมาณ 4-6 ฟุต ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนาม ลำต้นรวมกันเป็นกอ มีกลิ่นหอม เป็นช่อยาวมีดอกเล็กฝอยเป็นจำนวนมาก ตะไคร้เป็นพืชที่สามารถนำส่วนต้นหัวไปประกอบอาหาร และจัดเป็นพืชสมุนไพรด้วย
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมวิธีการปลูกตะไคร้ ให้โตไว เหง้าใหญ่ แบบวิธีชาวบ้าน บอกเลยว่าง่ายมาก ส่วนจะมีวิธีการเป็นอย่างไรไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ
การเตรียมแปลง
-ไถพรวนดิน ตากแดด 7-10 วัน
-ขุดหลุมปลูกขนาด 25x25x25 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกเก่ารองก้นหลุมไปพร้อมๆ กับการพรวนดิน
-ใช้ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 1×1 เมตร จะได้ตะไคร้ที่ลำต้นและหัวอวบใหญ่ แต่ถ้าหากปลูกชิดกว่านี้ต้นตะไคร้จะไม่อวบ ลำต้นจะผอมสูง
-ปักต้นพันธุ์ตะไคร้ลงดินให้มีลักษณะเอียง 45 องศา ลึก 5 เซนติเมตร จำนวนหลุมละ 2 ต้น
การดูแลรักษา
การให้น้ำ : ให้น้ำแบบปริงเกอร์ 2-3 วันต่อครั้ง เช้าและเย็น จนตะไคร้สามารถตั้งตัวได้ จากนั้นรดน้ำ 5-7 วันต่อครั้ง
การให้ปุ๋ย : หลังจากปลูกได้ 3 เดือน ต้นตะไคร้จะเริ่มแตกกอ โรยปุ๋ย (46-0-0) ที่บริเวณโคนกอตะไคร้ กอละ 1 กำมือ ตามด้วยการรดน้ำ
การเก็บเกี่ยว
– ตะไคร้จะเริ่มตัดขายได้ตั้งแต่อายุ 8 เดือนขึ้นไป จนถึง 1 ปีครึ่ง ถ้าหากอายุเกินกว่านี้ลำต้นจะเริ่มฝ่อไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
– การเก็บเกี่ยวผลผลิตจะขุดขึ้นมาทั้งกอ โดยตะไคร้ 1 กอ จะมีน้ำหนักประมาณ 6-10 กิโลกรัม จากนั้นให้นำมาตัดรากและใบออก ให้ต้นตะไคร้มีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร น้ำหนักจะเหลือเพียง 3-5 กิโลกรัมต่อกอ มัดรวมเป็นกำๆ ใส่ถุงพลาสติกน้ำหนัก 5 หรือ 10 กิโลกรัมต่อถุง เพื่อรอจำหน่ายต่อไป
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
ราคาขายตะไคร้จะยืนพื้นอยู่ที่ 5 บาทต่อกิโลกรัมในช่วงฤดูฝน ในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายน และช่วงเทศกาลราคาจะแพงขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 8-10 บาท โดยพื้นที่ 1 ไร่ จะให้ผลผลิตประมาณ 1.5 ตัน บรรจุถุงพลาสติก 5 กิโลกรัมต่อถุง จำหน่ายแบบคัดเกรด (หัวใหญ่) กิโลกรัมละ 8 บาท และจำหน่ายแบบคละเกรดกิโลกรัมละ 6 บาท