นักดำน้ำ ตื่นตากับฟ้าสวยน้ำใส พบฉลามวาฬโผล่ทะเลที่ระยอง


นักดำน้ำที่ระยองพบฉลามวาฬตัวยักษ์ ว่ายน้ำออกหากินในทะเล บริเวณหินเพลิง ห่างจากฝั่งตำบลกร่ำ อ.แกลง 13 ไมล์ทะเล ท่ามกลางทะเลที่เป็นใจ ฟ้าสวยน้ำใส คลื่นลมราบเรียบ

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีนักดำน้ำพบฉลามวาฬบริเวณหินเอาว์บา (หินเพลิง) ในเขตจังหวัดระยอง ห่างจากฝั่งตำบลกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ระยะทางประมาณ 13 ไมล์ทะเล ไปตรวจสอบพร้อมนักดำน้ำโดยเรือของบริษัทเดอะทอย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที

ช่วงนี้ทะเลคลื่นลมราบเรียบ น้ำทะเลสีใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง บริเวณหินเพลิงเป็นกองหินธรรมชาติใต้ทะเล มีอยู่ด้วยกัน 2 กอง กองตะวันตกจะเป็นหินสูง เวลาน้ำลงหินจะโผล่มองเห็น (ชาวบ้านเรียกหินเล่นน้ำ มองเห็นแต่ไกล)

ส่วนกองตะวันออกเป็นหินจม ความลึกของน้ำบริเวณนี้อยู่ที่ 15-20 ฟุต เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนา ๆ ชนิด เพราะเรืออวนลากไม่สามารถเข้าไปลากได้ จึงเป็นที่อยู่ของปลา มีแพลงก์ตอน แมงกะพรุน อาหารสำหรับปลา

โดยเฉพาะฉลามวาฬ ซึ่งมักจะพบเห็นฉลามวาฬบริเวณนี้ปีละไม่เกิน 2-3 ครั้ง ในช่วงทะเลราบเรียบหรือช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค. ก่อนจะเข้าฤดูมรสุม หลังจากที่ได้ลงดำน้ำอยู่ในช่วงบ่าย ๆ

ขณะที่นักดำน้ำตามหาเจ้าฉลามวาฬ ก็ได้พบฉลามวาฬว่ายน้ำแบบเงียบ ๆ ช้า ๆ มีฝูงปลาเล็กว่ายตามมาจำนวนมาก ความยาวประมาณ 5-6 เมตร ว่ายเข้ามาให้เก็บภาพอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง นักดำน้ำต่างได้ชมฉลามวาฬกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ด้วยความที่หาตัวพบได้ยาก ต่างได้ภาพไว้เป็นระลึก จากนั้นฉลามวาฬก็ว่ายน้ำหายไปในท้องทะเลลึก

ลักษณะของฉลามวาฬที่แตกต่างจากฉลามส่วนใหญ่ คือ หัวที่ใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับขนาดลำตัว และปากที่อยู่ด้านหน้าแทนที่จะอยู่ด้านล่าง ฉลามวาฬ เกือบทั้งหมดที่พบมีขนาดใหญ่กว่า 3.5 เมตร ใช้เหงือกในการหายใจ มีช่องเหงือก 5 ช่อง มีครีบอก 2 อัน ครีบหาง 2 อัน และครีบก้น (หาง) 1 อัน หางของปลาฉลามวาฬอยู่ในแนวตั้งฉาก และโบกไปมาในแนวซ้าย-ขวา แตกต่างจากสัตว์เลืoดอุ่นในทะเลที่หางอยู่ในแนวขนานและหายใจด้วยปอด

อาทิ วาฬ, โลมา หรือพะยูน เป็นต้น และกินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร โดยใช้วิธีกรอง ฉลามวาฬปกติเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก และจะขึ้นมากินแพลงก์ตอนในเวลากลางคืนบริเวณผิวน้ำ โดยใช้การดูดน้ำเข้าปากแล้วผ่านช่องกรอง โดยจะทิ้งตัวเป็นแนวดิ่งกับพื้นน้ำ

มีข้อมูลว่าที่เมืองออสลอบ ในจังหวัดเซบู ของฟิลิปปินส์ ชาวพื้นเมืองที่นั่นซึ่งดั้งเดิมมีอาชีพประมงจับปลาทั่วไป ตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 เป็นต้นมา ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยการโปรยอาหารเลี้ยงฉลามวาฬ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจนกลายเป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยวดำน้ำของที่นี่

โดยอาหารที่ป้อนนั้น คือ เคย และจะมีช่วงเวลาที่ป้อนตั้งแต่ 05.00 หรือ 06.00-13.00 น. ในแต่ละวัน จากนั้นฉลามวาฬก็จะว่ายออกไปทะเลลึกเพื่อหากินเอง ซึ่งเชื่อว่าวิธีการแบบนี้จะไม่ทำให้พฤติกรรมของฉลามวาฬเปลี่ยนไป

แหล่งที่มา: posttoday

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

Leave a Reply

Your email address will not be published.