สาบเสือ ถือเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หาง่ายมากๆ มีอยู่ทั่วไป จัดว่าเป็นวัชพืชที่มีสรรพคุณทางยาที่ใช้ประโยชน์ได้ดีที่เดียว เราใช้ต้นสาบเสือเป็นดรรชนีชี้วัดอุณหภูมิความแห้งแล้งของอากาศ เพราะหากอากาศไม่แล้งต้นสาบเสือก็จะไม่ออกดอก สาเหตุที่ได้ชื่อว่า สาบเสือ ก็เพราะว่าดอกของมันไม่มีกลิ่นหอมเลยแต่กลับมีกลิ่นสาบ คนโบราณเวลาหนีสัตว์ร้ายอื่นเข้าดงสาบเสือจะปลอดภัย เพราะสัตว์อื่นนั้นจะไม่ได้กลิ่นคน
อีกหย่างคนโบราณเชื่อว่า สมัยก่อน เวลาหนีสัตว์ร้าย หรือเสือ ก็จะหนีเข้าดงต้นสาบเสือแล้วจะปลอดภัย เพราะกลิ่นของดอกมันจะกลบกลิ่นคนจนหมด พวกสัตว์ร้ายจึงไม่ตามมาทำอันตรายใดๆ (ย่อหน้านี้คัดข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับวัชพืชชนิดนี้ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบมาก่อนว่าแท้จริงแล้วมันคือ สมุนไพรพื้นบ้าน ที่คนไทยในอดีตใช้รักษาโรคต่างๆ มากมาย จะว่าไปแล้วนั้น มันจะมีประโยชน์อะไรบ้างไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ลักษณะจะเป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขามากมายจนดูเป็นพุ่ม ปลายผลมีขนสีขาว ช่วยพยุงให้ผลและเมล็ดปลิวตามลม
มีสรรพคุณทางยามากมายทั้งจากต้นใบดอก
ส่วนของต้น ใช้แก้ปวดท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ แก้บวม ดูดหนองได้
ส่วนของใบ ใช้รักษา แผลสด สมานแผล ถอนพิษษแก้อักเสบ แก้พิษน้ำร้อนลวก ตาฝ้าฟาง ตาแฉะ ริดสีดวงทวารได้
ส่วนของดอก ใช้เป็นยาแก้ไอ กระหายน้ำ ชูกำลัง แก้อ่อนเพลีย และบำรุงหัวใจ แก้ไข้ได้
ทั้งนี้ หากจะใช้ประโยชน์จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเท่านั้น
หรือสามารถสอบถามผู้สูงอายุที่บ้านได้ ท่านน่าจะเคยใช้มาก่อน โดยส่วนใหญ่ หากเป็นชาวบ้านจะนิยมนำใบไปตากแห้งแล้วชงดื่มเป็นชา ดื่มวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น ทุกวัน ลดอาการของโรคไต
วิธีใช้ใบสาบเสือห้ามเลือด
นำใบสาบเสือ ตำผสมกับปูน ใช้พอกห้ามเลือด ปิดแผล รวมถึงใช้เป็นยาสมานแผลใบสาบเสือ ตำผสมกับเกลือ พอกที่แผล ใช้ห้ามเลือดใบ และดอก นำไปตำจนได้น้ำออกมา ใช้น้ำที่ได้ห้ามเลือด ได้เช่นกัน
สาบเสือ ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่การรักษาโรคเท่านั้น กลิ่นฉุนของสาบเสือก็ยังสามารถใช้เป็นยาฆ่าแมลงได้อีกด้วย ได้เห็นประโยชน์มากมายขนาดนี้แล้ว จากวัชพืชธรรมดาที่เรามองข้ามอย่าง สาบเสือ คงจะมีค่าขึ้นมาบ้างนะคะ วันไหนพอมีเวลาว่าง ลองสังเกตบริเวณรอบบ้านดู คุณอาจจะพบแหล่งสมุนไพรชั้นเยี่ยมอยู่ใกล้ๆ โดยไม่รู้ตัวเลยก็ได้ค่ะ
