หมอโพสต์ ไขข้อข้องใจ ทำไม “ไวรัสโควิด19” ในเมืองไทຍไม่รະบาด ทั้งที่เป็นปรະเทศที่ความเสี่ຍงมาก


มีคนออกมาถามว่า… ทำไมประเทศไทยจึงยังคงไม่มีการแพร่ระบาดกว้างขวางเหมือนในฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือเวียตนาม ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด

นพ. ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค โพสต์ภาพข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอแก้ว ผลิพัฒน์ ตอบคำถาม ทำไมประเทศไทยจึงยังคงไม่มีการแพร่ระบาดกว้างขวางเหมือนในฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือเวียดนาม ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด มีมาตรการเปิดกว้างกับผู้เดินทางมากที่สุด และยังเจอผู้ป่วยเป็นประเทศแรกนอกประเทศจีน ระบุว่า

1. เป็นเพราะเรามีระบบการป้องกันควบคุมโรคที่ดี ตรงนี้ชัดเจนเป็นที่ยอมรับ จาก Global Health Security Index ที่เราเป็นประเทศกำลังพัฒนาเพียงประเทศเดียวที่จัดอยู่ในกลุ่มประเทศ Most prepared

และยังได้รับการจัดอันดับสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก อันดับ 1 ของเอเซีย ดีกว่าหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว (เช่น สวีเดน ฝรั่งเศษ เยอรมัน เป็นต้น) ซึ่งหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ได้ลงข่าวนี้กันอย่างกว้างขวางเพื่อกระตุ้นและเรียกร้องให้รัฐบาลของตัวเองหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้กันมากขึ้น

2. เราเปิดระบบของเราเร็วมาก ข่าวมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ออกมาวันที่ 31 ธันวาคม 2562 แม้ระยะแรกจะบอกว่าไม่ติดต่อจากคนสู่คน แต่ทีมงานประเมินความเสี่ยงแล้วก็ตัดสินใจที่จะยกระดับการปฏิบัติกันไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563

3. เรามีสิ่งที่คนอื่นไม่มี เรามี “มดงานนิรนาม” คนที่สู้งานโดยไม่ได้คำนึงว่าใครจะเป็นคนได้หน้า ได้ชื่อ ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างหนักทุกวันมากว่า ๖ สัปดาห์แล้ว ทำทุกเรื่องตั้งแต่วิเคราะห์กลยุทธ์แนวทางการรับมือ ตรวจคัดกรองที่ด่าน ติดตามเฝ้าระวังผู้เดินทาง ให้การวินิจฉัยผู้ป่วยให้ได้โดยเร็ว

สอบสวนโรค ติดตามผู้สัมผัส ดูแลรักษาผู้ป่วย ให้ความรู้และข่าวสารที่เที่ยงตรงกับประชาชน แถมเรายังมีเพื่อนร่วมงานที่ทุ่มเทไม่แพ้กัน อีกมากมายหลายคน หลายทีม

วันนี้ ในขณะที่การแพร่โรคในหลายประเทศเริ่มขยายวงกว้างขวางขึ้นทุกที ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดเจนถึงผลงานของเหล่ามดงานนิรนาม พวกเขาช่วยชะลอการแพร่ระบาดในประเทศออกไปได้สำเร็จ เราซื้อเวลา

ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในยามนี้ เวลาที่หน่วยงานอื่น (เช่น สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) จำเป็นต้องใช้สำหรับการเตรียมโรงพยาบาลต่างๆ ให้พร้อมสำหรับการแพร่ระบาดระยะต่อไป (หากมันจะเกิดขึ้นจริง) ให้ได้ดียิ่งขึ้น

เพราะศึกนี้เพียงเพิ่งเริ่ม แต่ผมก็อยากใช้เวลาเพียงสั้นๆ สะท้อนถึงความสำเร็จของเหล่ามดงานนิรนามเหล่านี้ ขอแสดงความชื่นชม และความขอบคุณเหล่ามดงานนิรนามของกรมควบคุมโรค และหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วนไว้ ณ โอกาสนี้

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ แถลงสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า

ขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 คงที่ 35 คน รักษาหายแล้ว 17 คน เหลือรักษา 18 คน ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 2 คนขณะนี้อาการคงที่ไม่มีไข้ แต่ยังต้องดูแลอาการใกล้ชิด

ส่วนผู้ป่วยสอบสวนโรคสะสม 957 คน กลับบ้าน 857 คน ส่วนใหญ่ป่วยไข้หวัด การเฝ้าระวังจากนี้ยังคงยืนยันมาตรการเข้ม และขอแสดงความเสียใจกับการเสีຍชีวิตของ ผอ.รพ.อู่ฮั่น

ส่วนที่หลายคนกังวลเรื่องการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์นั้น ขณะนี้ได้มีการอบรมบุคลากรทางการแพทย์ให้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ขณะที่บุคลากรที่ติดเชื้ออาการดีขึ้น ติดเพราะผู้ป่วยคนที่รับบริการและใกล้ชิดขณะนั้นสงสัยป่วยไข้เลืoดออก

สำหรับสัดส่วนของการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และผู้ป่วยเฝ้าระวัง มีทั้งคนไทยและจีน 45% และ 10% เป็นคนชาติอื่นๆ ส่วนมาตรการเฝ้าระวังในขณะนี้ได้เพิ่มความเข้มไปถึงการตรวจค้นหาผู้ป่วยไข้หวัดด้วย เน้นใน 8 จังหวัด กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, สมุทรปราการ, ประจวบคีรีขันธ์, ภูเก็ต, กระบี่, เชียงราย และเชียงใหม่

ส่วนกรณีที่นักวิชาการต่างชาติวิจารณ์ไทยอาจปกปิดข้อมูลหลังจากตัวเลขผู้ป่วยในไทยไม่ขยับ นพ.โสภณ กล่าวว่า การรายงานของกระทรวงสาธารณสุข ทำอย่างตรงไปตรงมาเปิดเผยตลอด จะเห็นได้ว่าไทยเป็นชาติแรกที่ส่งสัญญาณเตือนเรื่องนี้

หลังจากพบผู้ป่วยติดเชื้อนอกประเทศจีนเป็นรายแรก มาตรการเฝ้าระวังคัดกรองของไทย ทำตั้งแต่ 3 มกราคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ย่อมเป็นธรรดาที่คนเตรียมตัวมาก่อนย่อมเฝ้าระวังดีกว่าคนเพิ่งเริ่ม อีกทั้งจีนมีมาตรการควบคุมการเดินทางของคนเดินทางนอกประเทศดี

แหล่งที่มา: หมอแก้ว ผลิพัฒน์ / baterk

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

Leave a Reply

Your email address will not be published.