“น้องเอิร์ธ” หนุ่มวัย 18 ปี บ้านยากจน วาดภาพขๅย เลี้ยงตา-ยาย หาทุนเรียนต่อ


เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา มีเรื่องราวที่ได้รับแจ้งจาก นายธวัชชัย สำราญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยเม็กวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ว่ามีลูกศิษย์ซึ่งเป็นนักเรียนชายคนหนึ่ง อาศัยอยู่กับตา-ยาย ที่บ้านหาดทรายมูล ต.พิมูล อ.ห้วยเม็ก

โดยใช้ช่วงปิดเทอมวาดภาพและสร้างสรรค์ผลงานจำหน่ายได้หลายชิ้น ที่สำคัญเป็นผลงานการวาดภาพที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ เป็นพรสวรรค์หรือความสามารถเฉพาะตัว

โดยมีแรงบันดาลใจจากความเป็นเด็กในชนบท ที่ผูกพันกับครอบครัวและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ลูกค้าที่ซื้อผลงานไปก็ชื่นชอบ ยอมซื้อให้ราคาสูงถึงชิ้นละ 2,000 บาท ทั้งนี้ ลูกศิษย์คนดังกล่าวมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นสถาปนิก โดยอยากศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ที่สถาบันอาศรมศิลป์ แต่ยังไม่มีความพร้อมด้านทุนการศึกษา จึงวาดภาพขๅยและช่วยตา-ยายทำนา

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 59 บ้านหาดทรายมูล ต.พิมูล อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของ นายดิเรก ภูอวด อายุ 77 ปี และ นางฟอง ภูอวด อายุ 75 ปี สองสามีภรรยา

และพบ นายกฤตเมธ หรือน้องเอิร์ธ สายแสน อายุ 18 ปี กำลังนั่งวาดภาพและระบายสีลงผืนแผ่นผ้าอยู่ใต้ถุนบ้าน ขณะที่มีผลงานที่วาดเสร็จแล้ว ซึ่งเป็นภาพทิวทัศน์สวยงาม สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ธรรมชาติ และวิถีชุมชน ซึ่งรอลูกค้ามารับตั้งโชว์อยู่อีกหลายแผ่น

นายเจริญ ภูอวด สมาชิก อบต.บ้านหาดทรายมูล ลุงของ น้องเอิร์ธ กล่าวว่า ทุกวันนี้ น้องเอิร์ธ อาศัยอยู่กับตา-ยาย และน้องชาย 1 คน โดยแม่เสีຍชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน พ่อไปมีครอบครัวใหม่ ขณะที่น้องชายของ น้องเอิร์ธ ซึ่งจบชั้น ม.3 ก็ไปบวชเรียน หน้าที่การดูแลตา-ยายที่สูงอายุมากแล้ว รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตและการศึกษา

จึงเป็นหน้าที่ของ น้องเอิร์ธ ที่จะจัดการเองทั้งหมด โชคดีที่สุขภาพตา-ยาย สมบูรณ์ แข็งแรง จึงไม่เป็นภาระ ญาติพี่น้องก็คอยดูแลและช่วยเหลือกันบ้างตามอัตภาพ ทั้งในส่วนของอาหารการกิน ช่วยทำนา อย่างไรก็ตามถือว่า น้องเอิร์ธ เป็นเด็กกตัญญู ไม่เคยเกเร มีความรับผิดชอบสูงมาก

นายเจริญ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่แม่ น้องเอิร์ธ นอนรักษาที่โรงพยาบาลนั้น น้องเอิร์ธ กับน้องชาย ต้องผลัดกันไปเฝ้าแม่ และจำเป็นต้องขาดโรงเรียนสลับกันคนละ 2 วัน แต่ก็ไม่ทิ้งการเรียน ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาว่างหารายได้เริม ด้วยการวาดภาพขๅยให้กับเพื่อน ๆ และชาวบ้าน ทราบว่าทีแรกเริ่มจากวาดภาพระบายสีในแผ่นกระดาษ ขๅยแผ่นละ 20-50 บาท

พอรู้จักกันแพร่หลายและเห็นความตั้งใจ รวมทั้งอยากให้ น้องเอิร์ธ มีรายได้ ชาวบ้านในชุมชนและเด็กนักเรียนก็ช่วยกันอุดหนุน ทำให้ น้องเอิร์ธ มีการพัฒนาฝีมือขึ้นตามลำดับ และวาดภาพออกมาดี ฝีมือไม่ด้อยไปกว่าจิตรกรมืออาชีพเลย

ด้าน น้องเอิร์ธ กล่าวว่า ตนสนใจการวาดภาพมาตั้งแต่เด็กก่อนที่จะมาเริ่มอย่างจริงจังตอนเรียน ม.2 ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์ที่สอนวิชาศิลปะ เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันหลายกิจกรรม และได้รับรางวัลมาเรื่อย ๆ จึงเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ และมีใจรักงานด้านศิลปะการวาดภาพ

ทั้งนี้ ภาพที่ตนถนัดจะเป็นภาพเกี่ยวกับเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ วิถีชุมชน เพราะมีอิสระทางความคิด วาดไปตามจินตนาการผสมผสานกับเทคนิค ที่ศึกษาเพิ่มเติมจากยูทูบ และหลักการที่อาจารย์สอนศิลปะสอนให้

น้องเอิร์ธ กล่าวอีกว่า จากการที่ตนได้ซึมซับศิลปะการวาดภาพ และได้รับกำลังใจจากตา ยาย ครู เพื่อน ๆ รวมทั้งชาวบ้าน จึงตั้งความหวังอยากศึกษาต่อด้านสถาปนิกและสิ่งแวดล้อมที่สถาบันอาศรมศิลป์ เพื่อนำความรู้มาพัฒนาชุมชนด้านสิ่งแวดล้อม ที่กำลังเสื่อมโทรมให้ฟื้นกลับมา เพราะสิ่งแวดล้อม มีความสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมาก

แต่จากสภาพปัจจุบันที่สิ่งแวดล้อมถูกบุกรุกทำลายไป ทำให้เกิดความเสียหายหลายด้าน ทั้งเกิดภาวะโลกร้อน สภาพอากาศวิปริต บางปีฝนทิ้งช่วง เกิดภัยแล้ง บางปีพายุแรง น้ำท่วม เป็นต้น

น้องเอิร์ธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกวันนี้ตนมีความมุ่งมั่นในการวาดภาพขๅย โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมยาว เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนจึงทุ่มเทกับการวาดวาดภาพด้วยสีอะคริลิคบนผ้าใบ เพราะวาดเเล้วรูปไม่จำเป็นต้องอัดกรอบ นำไปเเขวนได้เลย

แผ่นภาพที่วาดออกมาจะมีความตึงไม่ยับเหมือนกระดาษ สามารถเคลื่อนย้ายรูปได้ง่ายและสะดวก คุณภาพของภาพที่ใช้สีอะคริลิคจึงคงทนนานปี โดยสีไม่ตก ลูกค้าจึงชื่นชอบ

ซึ่งแต่ละภาพใช้เวลาไม่นานนัก หากมีเวลาให้กับมันอย่างเต็มที่ บางภาพวันเดียวก็เสร็จ ขึ้นอยู่กับการลงรายละเอียด โดยทำขๅยหลายราคา ตามที่ลูกค้าต้องการ เฉลี่ยชิ้นละ 2,000 บาท นับรวมมีรายได้จากการวาดภาพขๅยประมาณ 20,000 บาท หรือประมาณ 10 ชิ้น ทั้งนี้ ก็ยังจะวาดภาพขๅยต่อไป เพื่อมีรายได้เก็บออมเป็นทุนการศึกษาที่สถาบันอาศรมศิลป์

น้องเอิร์ธ กล่าวในตอนท้ายว่า อย่างไรก็ตาม คิดว่ารายได้จากการวาดภาพขๅย ซึ่งไม่แน่นอน และหากเปิดเทอมปีการศึกษา 2563 เวลาวาดภาพคงเหลือน้อย และคงจะไม่มีทุนการศึกษาต่อที่สถาบันอาศรมศิลป์แน่นอน หากจะให้ยืม กยศ.ก็ไม่ใช่แนวคิดของตน และหากยืมได้ก็คงจะไม่เพียงพอ เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายในการศึกษานั้นสูงมาก

ภาคเรียนแรกประมาณ 60,000 บาท ภาคเรียนต่อ ๆ ไป 50,000 บาทหรือ 40,000 บาท ซึ่งจะต้องเรียน 5 ปี หรือ 10 เทอม ก็คงจะไม่มีเงินเรียนแต่นอน หรือจะให้ตา-ยายขๅยที่นา ซึ่งเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของครอบครัวก็เป็นไปไม่ได้ หรือถึงแม้ตากับยายอยากจะขๅยให้ตนเรียน

แต่ตนจะไม่ยอมให้ขๅยแน่นอน เพราะตนรักธรรมชาติ รักสิ่งของที่เป็นมรดกของตระกูล ถึงจะมีความฝันอยากไปตามฝันดังกล่าว เมื่อไม่มีทุนเรียนก็คงจะตัดใจ ก่อนอื่นขอให้เรียนจบ ม.6 และเวลาว่างเสาร์-อาทิตย์วาดภาพขๅยและช่วยตา-ยายทำนา

อย่างไรก็ตาม ทั้งคณะครู เพื่อน ๆ และชาวบ้าน เห็นความสามารถและเห็นความตั้งใจของ น้องเอิร์ธ ที่อยากศึกษาต่อที่สถาบันอาศรมศิลป์ดังกล่าว แต่ยังไม่พร้อมเรื่องทุนการศึกษา ก็ได้แต่ให้กำลังใจและช่วยหาลูกค้ามาสั่งวาดภาพให้ เผื่อจะได้เงินสะสมเป็นทุนการศึกษา เป็นสถาปนิกและสิ่งแวดล้อม ที่จบจากสถาบันอาศรมศิลป์ในด้านที่น้องเอิร์ธใฝ่ฝัน

แหล่งที่มา: trueid

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

Leave a Reply

Your email address will not be published.